สะพานข้ามแม่น้ำแคว
เป็นสะพานรถไฟสายมรณะ
สร้างในสมัยสงครามมหาเอเชียบูรพา เริ่มต้นจากสถานีหนองปลาดุก อ. บ้านโป่ง จ.
ราชบุรี ผ่านสถานีต่าง ๆ ใน จ. กาญจนบุรี
เพื่อลำเลียงยุทธปัจจัยและกำลังทหารไปยังพม่า
เส้นทางเมื่อข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควไปแล้วจะเลียบไปตามลำน้ำแควน้อย
ผ่านโตรกผาบริเวณที่เรียกว่าถ้ำกระแซ ซึ่งเป็นทางโค้งเลียบหน้าผา
ด้านหนึ่งเป็นแม่น้ำที่เชี่ยวกราก
บางช่วงต้องขุดเจาะระเบิดภูเขาเป็นช่องให้รถไฟผ่านไป บริเวณนี้เต็มไปด้วยไข้ป่า
สัตว์ร้ายนานา ความอดอยาก ความทารุณโหดร้ายจนทำให้เชลยศึกชาวตะวันตก
และกรรมกรรถไฟหลากเชื้อชาติต้องสังเวยชีวิตไปเป็นจำนวนมาก จนมีการเปรียบเทียบว่าหนึ่งไม้หมอนของทางรถไฟสายมรณะคือหนึ่งชีวิต
สะพานอันเลื่องชื่อในสงครามโลกครั้งที่ 2 เป็นสถานที่จัดแสดงแสงสีเสียงทุกปี
ประวัติ
ทหารช่างญี่ปุ่นเลือกสร้างสะพานที่บริเวณนี้เนื่องจากมีฐานดินด้านล่างแน่นที่สุด
โดยใช้แรงงานเชลยศึกและกรรมกรรับจ้างจำนวนมาก
การก่อสร้างเริ่มจากการสร้างสะพานไม้เพื่อลำเลียงคนและอุปกรณ์ก่อสร้างทางรถไฟข้ามไปก่อน
โดยสร้างในช่วงที่น้ำลดลงตอนปลายเดือนพ.ย.2485โดยใช้ไม้ซุงทั้งต้นตอกเป็นเสาเข็ม
ใช้เวลาก่อสร้าง 3เดือน
และได้รื้อออกไปหลังจากสร้างสะพานเหล็กแล้ว
(ปัจจุบันแนวสะพานไม้เดิมอยู่ห่างจากสะพานข้ามแม่น้ำแควลงไปทางใต้ประมาณ 100
ม.ในพิพิธภัณฑ์สงครามโลกครั้งที่ 2) ส่วนสะพานข้ามแม่น้ำแควใช้เวลาสร้างเพียง
1เดือน โดยนำเหล็กจากมลายูมาประกอบเป็นชิ้น ๆ
ตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็ก11 ช่วง หัวและท้ายเป็นโครงไม้
ตัวสะพานยาวประมาณ 300 ม.สร้างเสร็จและทำพิธีเปิดอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่25ธ.ค.2486
สะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศเป็นครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2487 และถูกโจมตีทั้งสิ้นราว 10ครั้งในระหว่างสงคราม จนกระทั่งสะพานช่วงที่ 4-6 ชำรุด และไม่สามารถใช้การได้ ต่อมาการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงขึ้นใหม่จากของเดิม โดยตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็กสองช่วง ส่วนด้านหัวและท้ายเปลี่ยนเป็นสะพานเหล็กหกช่วงแทน
สะพานข้ามแม่น้ำแควถูกทหารฝ่ายสัมพันธมิตรโจมตีทางอากาศเป็นครั้งแรกในเดือน พ.ย. 2487 และถูกโจมตีทั้งสิ้นราว 10ครั้งในระหว่างสงคราม จนกระทั่งสะพานช่วงที่ 4-6 ชำรุด และไม่สามารถใช้การได้ ต่อมาการรถไฟแห่งประเทศไทยได้ปรับปรุงขึ้นใหม่จากของเดิม โดยตอนกลางทำเป็นสะพานเหล็กสองช่วง ส่วนด้านหัวและท้ายเปลี่ยนเป็นสะพานเหล็กหกช่วงแทน
สิ่งน่าสนใจ
สะพานข้ามแม่น้ำแคว ตัวสะพานมีความสวยงาม
นักท่องเที่ยวนิยมขึ้นไปเดินเล่นตามรางรถไฟบนสะพาน
และเมื่อรถไฟแล่นผ่านก็สามารถยืนหลบอยู่ที่จุดพักซึ่งมีอยู่เป็นระยะตลอดสะพานหัวรถจักร การรถไฟแห่งประเทศไทยนำมาตั้งแสดงไว้บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแคว มีทั้งหัวรถจักรดีเซลแบบติดล้อรถยนต์ไว้สำหรับวิ่งบนถนนซึ่งใช้ในระหว่างการก่อสร้างทางรถไฟและหัวรถจักรไอน้ำแบบที่ใช้ในการลำเลียงยุทธสัมภาระ
ร้านขายของฝากและอัญมณี อยู่บริเวณเชิงสะพานส่วนใหญ่เป็นของพื้น ๆ เช่นเดียวกับสถานที่ท่องเที่ยวทั่วไป แต่ที่มีขายมากคือเครื่องหวาย และงานไม้แกะสลักชิ้นเล็ก ๆ จากพม่า วุ้นเส้น และพลอย แต่ที่เป็นที่ต้องการของนักท่องเที่ยวจำนวนมาก คือ ไพลินหรือพลอยสีน้ำเงินนิลและบุษราคัมจากอ.บ่อพลอย
จุดขึ้นเรือหางยาวชมแม่น้ำแควน้อย อยู่บริเวณเชิงสะพานข้ามแม่น้ำแควทางด้านเหนือ มีเรือหางยาว (นั่งได้ลำละแปดคน) จอดบริการอยู่เป็นจำนวนมากตลอดทั้งวัน โดยจัดเป็นโปรแกรมทัวร์ในเส้นทางสะพานข้ามแม่น้ำแคว-พิพิธภัณฑ์สงคราม วัดใต้-สุสานช่องไก่-วัดถ้ำเขาปูน-วัดถ้ำมังกรทอง ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. (เวลานั่งเรือประมาณ 30 นาที)
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น